
เหยื่ออาชีพเก็บของเก่าทุกราย เป็นศพที่ 3 ‘เฉลิมเกียรติ’ รุดจี้คดีที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เผยฆาตกรเป็นคนเดียวกันและมีความเชื่อมโยงคดีทั้งหมด เพราะเหยื่อรายล่าสุดเป็นสามีของพยานปากสำคัญในคดี 2 ศพแรก พบพยานเห็นผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับยังวนเวียนอยู่ย่านรังสิต พูดสำเนียงต่างด้าวพยายามซื้อบริการสาวนะยะ ขณะที่ชาวบ้านกับคนเก็บของเก่าก็ผวาหนักกลัวตกเป็นเหยื่อฆาตกรโหดรายนี้ด้วย
จากคดีสยองปทุมธานี ฆ่าโหดนายศุภร โตกกราน อายุ 24 ปี และน.ส.สุภาพรรณ คงอยู่ดี อายุ 38 ปี คนเก็บของเก่าขายรวม 2 ศพ มัดมือไพล่หลังทิ้งใต้สะพานยกระดับรังสิต ริมถนนวิภาวดีฯ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตร.แกะวงจรปิดตามล่ามือฆ่า พบผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นลายดอกปั่นจักรยานสีดำ และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเหตุดังกล่าวกลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ องอาจ รองสว.(สอบสวน)สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกฆ่าตายบริเวณใต้สะพานยกระดับรังสิตมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ม.1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อริยะ พันธุ์ฝัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์นิติเวช ร.พ.ประชาธิปัตย์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุห่างจากสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ประมาณ 300 เมตร พบศพนายเสถียร ศรชัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 ม.7 ต.พราหมณี อ.เมือง จ.นครนายก อาชีพเก็บของเก่าขาย สภาพศพนอนคว่ำหน้าคุดคู้เสียชีวิตในสภาพตะแคงข้างขวา ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ถูกมัดมือไพล่หลังและเท้าด้วยสายไฟสีดำ ไม้แขวนเสื้อ และถุงเท้าสีดำ พบบาดแผลถูกของมีคมคอเป็นแผลฉกรรจ์เกือบขาด ถูกแทงที่ท้องและก้นกบซ้ายแห่งละ 1 แผล ใกล้กันพบข้าวของเครื่องใช้และเศษของเก่ากองอยู่กระจัดกระจาย แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ถาวรเผยว่า จากการสอบสวนพยานผู้พบศพคนแรกให้การว่า ก่อนมาพบศพกำลังออกเดินมาหาปลาบริเวณริมคลองที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีคนนอนอยู่ จึงได้เดินเข้าไปดูก็พบคนถูกฆ่าปาดคอ จึงรีบเรียกคนที่ผ่านไปมาให้โทร.แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีลักษณะเป็นชายเร่ร่อนออกเก็บของเก่า และนอนพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเหมือนกับทั้ง 2 ศพ ที่ถูกฆ่าโหดก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 วันก่อนซึ่งเป็นการฆ่าแบบเดียวกัน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายเป็นรายเดียวกันที่ตำรวจได้ออกหมายจับย้อนมาฆ่าปิดปาก เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พร้อมพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภาค 1 เรียกประชุมคณะสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าของคดีฆาตกรรม 3 ศพ ที่ห้องประชุม สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พร้อมพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภาค 1 เรียกประชุมคณะสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าของคดีฆาตกรรม 3 ศพ ที่ห้องประชุม สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
หลังจากใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติให้สัมภาษณ์ว่า คดีมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก เจ้าหน้าที่สอบพยานบุคคลและการสอบหาพยานเพิ่มเติมทั้งด้านการดำเนินการทางด้านนิติวิทยาศาสตร์คืบหน้าไปมากพอสมควร ส่วนผู้เสียชีวิตเมื่อเช้านี้กับ 2 ศพที่เจอก่อนหน้านี้นั้นอาจจะมีความเชื่อมโยงกัน เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐานและเวลาที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ แต่ยังระบุไม่ได้อย่างชัดเจนต้องรอให้พนักงานสอบสวนทำงานก่อน ซึ่ง 2 คดีแรกนั้น ร.ต.อ.ธีรเดช สังสีแก้ว รองสว.(สอบสวน)สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายไปแล้ว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ทั้ง 3 ศพนั้น ผู้ก่อเป็นคนเดียวกันระหว่างเกิดเหตุผู้ตายและคนร้ายนั่งดื่มสุรา และอาจเกี่ยวของกับยาเสพติด โดยศพนายเสถียรที่พบศพรายล่าสุดมีลักษณะของการมึนเมาดื่มสุรา ส่วนรายละเอียดของคดีอยู่ระหว่างสืบหาพยานและหลักฐานว่าเกี่ยวโยงกับการฆ่า 2 ศพแรกหรือไม่ เนื่องจากผู้ตายคนสุดท้ายเป็นสามีของพยานในคดีแรก ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นที่มีความโหดร้ายทารุณและกระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรีบดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว อยากจะขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคน หากทราบเบาะแสหรือพบเห็นคนร้าย ให้รีบแจ้งตำรวจ หรือแจ้งมาที่ 191 โดยเร็วที่สุด
ด้านพล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ แต่ต้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน โดยคนร้ายกับผู้ตายน่าจะรู้จักกันและคนร้ายเป็นคนเดียวกันกับที่ฆาตกรรม 2 ศพชายหญิง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และยังไม่พบอาวุธที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ แต่เป็นของมีคมซึ่งคาดว่าน่าจะจับคนร้ายได้เร็วๆ นี้
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.ถาวรร่วมสอบปากคำพยานเพิ่มเติมซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยพยานให้การว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งมีผู้ชายสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงลายดอก สวมรองเท้าแตะ เดินเข้ามาหาพร้อมพูดสำเนียงคนต่างด้าวว่าจะขอมีเพศสัมพันธ์ ด้วยความตกใจจึงบอกปฏิเสธและวิ่งหนีออกมา
เมื่อไปเล่าให้เจ้าของร้านฟัง เจ้าของร้านจึงนำภาพวงจรปิดผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม 2 ศพ ที่ตำรวจแจกมาให้ดู พบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงรีบแจ้งตำรวจแต่ชายคนดังกล่าวหลบหนีไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนแยกย้ายกันตามจับกุมคนร้ายซึ่งคาดว่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องสงสัยมาให้พยานชี้ตัว แต่ยังไม่ใช่ฆาตกรฆ่าโหด 3 ศพ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวไป
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากข่าวคนร้ายก่อเหตุฆ่าคนเก็บของเก่าขายไปแล้ว 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ทำให้ประชาชนทั่วไปและคนที่มีอาชีพเก็บของเก่าขายรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลว่าฆาตกรรายนี้จะมาก่อเหตุซ้ำอีก
โดยมีคนเก็บของเก่ารายหนึ่งเผยว่า รู้จักกับนายศุภรและนายเสถียรเป็นอย่างดี เพราะประกอบอาชีพเดียวกันและมักตั้งวงดื่มสุรากันบ่อยครั้ง เมื่อทราบว่าทั้งคู่ถูกฆ่าและคนร้ายยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ทำให้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากว่าจะถูกคนร้ายมาฆ่าอีกคน หรือจะมีใครที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวต้องตายกันอีกกี่ราย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด